0

(0)

5 สถานที่ห้ามพลาดในญี่ปุ่นสิ้นปี 2025 – ชมไฟ ชิมของอร่อย ท้าลมหนาว


2025-10-15 15:52:07

อยากปิดท้ายปีให้มีอะไรพิเศษหน่อยไหม? ญี่ปุ่นคือหนึ่งในประเทศที่ทำให้ปลายปีดูมีสีสันขึ้นมาทันที อากาศเย็นกำลังดี อาหารอร่อย เเถมมีเเหล่งช้อปปิ้งให้เลือกสรรมากมาย เดินเล่นไม่มีเหนื่อย แถมบางเมืองยังมีหิมะให้สัมผัสจริง ๆ ใครอยากชมไฟ อยากช้อป อยากกินของอร่อยหรือแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ นี่คือ 5 เมืองสุดฮอตที่ควรเก็บลงลิสต์ รับรองว่ามีทั้งภาพสวยและโมเมนต์ดี ๆ ให้กลับไปเล่าได้ไม่มีเบื่อ


1. โตเกียว (Tokyo) – เดินชมไฟยามค่ำคืน ช้อปปิ้งจนลืมเวลา



ปลายปีโตเกียวคือสวรรค์ของคนชอบบรรยากาศคริสต์มาส เพราะทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยไฟประดับ (Winter Illumination) สวยจนอยากถ่ายรูปทุกก้าว ย่านดังอย่าง ชินจูกุ (Shinjuku), ชิบูย่า (Shibuya)  และ รปปงงิ ฮิลส์ (Roppongi Hills) แข่งกันแต่งไฟแบบไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะถนน  Omotesando  ที่ต้นไม้ทั้งแถบเปล่งแสงสีทองระยิบระยับเหมือนหลุดไปอยู่ในหนังโรแมนติก ใครอยากได้บรรยากาศส่งท้ายปีแนะนำไปเคานต์ดาวน์ที่ โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)  หรือเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการไปขอพรที่ ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu Shrine)  ก็ได้ทั้งภาพสวยและความทรงจำดี ๆ กลับบ้านแน่นอน


2. ซัปโปโร (Sapporo) – เมืองขาวโพลนสำหรับคนรักหิมะและช็อคโกแลต



ถ้าอยากสัมผัสหิมะแบบเต็มอิ่มต้องไปที่ ซัปโปโร (Sapporo) เมืองหลวงของเกาะ ฮอกไกโด (Hokkaido) เพราะปลายปีทั้งเมืองจะกลายเป็นสีขาวเหมือนอยู่ในสโนว์โกลบ ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือ ตลาดคริสต์มาสสวนโอโดริ (Odori Park Christmas Market) ที่เต็มไปด้วยซุ้มขายเครื่องดื่มอุ่น ๆ และของกินน่ารักสไตล์ยุโรป เดินถือแก้วโกโก้ร้อนถ่ายรูปกับไฟประดับคือฟีลดีสุด ๆ สำหรับสายลุยก็ต้องลองสกีที่ Sapporo Teine Resort หรือ  Kiroro Resort สนุกทั้งมือใหม่และมือโปร เตรียมชุดกันหนาวให้พร้อมแล้วออกไปเล่นหิมะให้เต็มที่


3. เกียวโต (Kyoto) – เมืองเก่าโรแมนติกที่ต้องลองเดินเล่นยามค่ำ



ใครอยากเปลี่ยนจากไฟเมืองใหญ่ไปสัมผัสเสน่ห์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ต้องแวะ เกียวโต (Kyoto) เมืองเก่าที่อบอุ่นหัวใจสุด ๆ ปลายปีนี้บรรยากาศโรแมนติกเป็นพิเศษ เพราะวัดและศาลเจ้าหลายแห่งมีไฟไลท์อัพตอนกลางคืน เช่น วัดคิโยมิซึ (Kiyomizu-dera Temple)  ที่มองเห็นแสงไฟส่องกลางหุบเขาแบบสงบและสวยจับใจ ส่วน อาราชิยามะ (Arashiyama) ก็มีสะพาน โทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) กับ ป่าไผ่ (Bamboo Grove) ที่ดูเงียบสงบเหมาะกับการเดินเล่นช้า ๆ ถ่ายรูปสวยทุกมุมและได้ฟีลเหมือนย้อนเวลากลับไปสมัยเก่า


4. โอซาก้า (Osaka) – เมืองแห่งแสงสีและของกินที่กินไม่หยุด



โอซาก้า (Osaka)  เหมาะกับสายชอบความคึกคักและกินไม่ยั้ง สิ้นปีที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศครึกครื้น ย่าน โดทงโบริ (Dotonbori)  คือแลนด์มาร์กของคนรักสตรีตฟู้ด มีทั้ง ทาโกะยากิ (Takoyaki) ลูกใหญ่ร้อน ๆ และ โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki) รสเด็ดที่ต้องลอง เดินไปกินไปพร้อมชมไฟจากป้าย กูลิโกะ (Glico Sign)  คือเอกลักษณ์ที่ต้องถ่ายรูปคู่ไว้ให้ได้ นอกจากนี้อย่าลืมเผื่อเวลาไปสนุกกับ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) เพราะช่วงปลายปีจะมีขบวนพาเหรดและโชว์พิเศษสุดน่ารักที่จัดเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น


5. ฟูจิ (Mount Fuji) – วิวหิมะที่ต้องเห็นด้วยตาและออนเซ็นสุดฟิน



ปิดท้ายด้วยความโรแมนติกที่ ภูเขาฟูจิ (Mount Fuji) สิ้นปีคือเวลาที่ฟูจิสวมหมวกหิมะขาวตัดกับท้องฟ้าใส สวยเหมือนโปสการ์ด จุดที่ต้องไปคือ ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi) เพราะตอนเช้าจะได้เห็นเงาฟูจิสะท้อนน้ำแบบชัดเจน และ เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) ที่ได้ภาพฟูจิพร้อมวิวเมืองด้านล่างแบบพาโนรามา ถ้าอยากให้ทริปพิเศษกว่านี้ แนะนำพัก เรียวกัง (Ryokan) รอบทะเลสาบแล้วแช่ ออนเซ็นกลางแจ้ง (Open-air Onsen) ชมฟูจิไปด้วยคือฟีลดีเกินบรรยาย หนาวแค่ไหนก็อบอุ่นหัวใจแน่นอน


ญี่ปุ่นช่วงสิ้นปีคือการรวมทุกอย่างที่คนรักการเดินทางอยากเจอไว้ในทริปเดียว ทั้งไฟประดับระยิบระยับ อากาศเย็นสบาย หิมะขาวนุ่ม อาหารท้องถิ่นที่อร่อยแบบต้องยกนิ้วให้ และบรรยากาศโรแมนติกจากเมืองเก่ากับวิวออนเซ็นสุดฟิน แค่เลือกเมืองที่ใช่ เตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อม และอย่าลืมเพื่อนร่วมทางที่ขาดไม่ได้อย่าง กระเป๋าเดินทางคู่ใจ   กระเป๋าที่เหมาะกับทริปหน้าหนาวควร น้ำหนักเบา ล้อหมุนลื่น  แข็งแรงพอสำหรับลากบนถนนหรือพื้นหิมะ และมีช่องแยกของเป็นระเบียบ จะช่วยให้เดินทางจากเมืองสู่เมืองได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเหนื่อยลากสัมภาระ ทำให้เราเหลือเวลาและแรงไว้สนุกกับการเที่ยวแบบเต็มที่ ทริปญี่ปุ่นสิ้นปีนี้ก็จะกลายเป็นความทรงจำที่สวยงามตั้งแต่วันแรกที่ออกเดินทางจนถึงวันกลับบ้าน.


Copyright ® 2022 jptravelstore.com