เลือกกระเป๋าเดินทางอย่างไร ให้คุ้มค่า!!!

เลือกกระเป๋าเดินทางแบบไหนดี? 

เพราะบางทีเห็นกระเป๋าราคาถูกจึงซื้อแต่ใช้ไม่นานอาจจะมีปัญหาภายหลังเช่น ล้อหลุด แตกหัก คันชัดหลุด ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะสมจริงๆ  

ใครที่กำลังจะไปหาซื้อกระเป๋าเดินทางต้องขอบอกว่ามีประโยชน์แน่นอนค่ะ

1. วัสดุ  

สำหรับใครที่ค่อนข้างจะไปเมืองที่เจอฝนบ่อยๆ เลี่ยงกระเป๋าที่ทำจากหนัง และผ้าแบบธรรมดา ไม่อย่างนั้นสัมภาระ และเสื้อผ้าในกระเป๋าเป็นอันเปียกแน่ วัสดุของกระเป๋า
ก็เกี่ยวเนื่องกับราคาด้วยเช่น ราคากระเป๋าถูกๆไม่แน่วัสดุอาจจะเปราะบางก็ได้ ดังนั้นต้องดูดีดีว่า มันเป็นอะไร

เปรียบเทียบระหว่างกระเป๋าเดินทาง Polycarbonate 100 % และกระเป๋าเดินทางอลูมิเนียม

- โดย Pc (Polycarbonate) จะมีน้ำหนักที่เบา (กว่าอลูมิเนียม) มีผิวเงางาม สามารถพิมพ์ลายออกมาในเนื้อพลาสติกได้เลย มีทั้งแบบซิปและแบบเฟรม (กรอบแข็ง)
ทนแรงกระแทก ทนความร้อนสูง แต่ข้อเสียคือ มีราคาที่แพงกว่าพลาสติกชนิดอื่น เป็นรอยขีดข่วน หรือที่เรียกว่า รอยขนแมวง่าย

- ส่วนกระเป๋าเดินทางอลูมิเนียม สวย น้ำหนักค่อนข้างเบา (แต่ยังหนักกว่า Polycarbonate) เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผิวมีความเงางาม ดูหรูหรา ข้อเสียคือ เป็นรอยง่าย บุบได้
เหมาะที่จะถือขึ้นเครื่องมากกว่าโหลดลงใต้ท้องเครื่อง (โหลดลงใต้ท้องควรมีถุงคลุม)
 

ตัวอย่างกระเป๋าเดินทาง Polycarbonate Mix Abs คลิ๊ก!

----------------------------
 

2. กรอบกระเป๋าแบบเฟรม หรือแบบซิป

สิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ในการเลือกกระเป๋าเดินทาง แบ่งได้เป็น 2 อย่างคือแบบเฟรม และแบบซิป

- การเลือกกระเป๋าเดินทางแบบเฟรม ควรเลือกที่เป็นเฟรมอะลูมิเนียม ไม่ใช่วัสดุอื่น เพราะอะลูมิเนียมมีความแข็งแรง ไม่ขึ้นสนิม

- การเลือกกระเป๋าเดินทางแบบซิป ควรลองรูดซิปเปิดปิดหลายๆรอบ ซิปต้องขนาดใหญ่ดึงแล้วเปิดออกง่ายไม่ติดไม่กินตัวเนื้อผ้ากระเป๋า เป็นซิปที่วิ่งได้ทั้งสองทิศทาง สะดวกในการใช้ เปิดด้านไหนก็ได้ นอกจากตัวซิปต้องแข็งแรงแล้ว การตัดเย็บ ที่เรียบร้อย และแน่นหนา ก็ช่วยให้กระเป๋าเดินทางอยู่กับเราได้ยาวนาน

ตัวอย่างกระเป๋าเดินทางแบบเฟรมอะลูมิเนียม คลิ๊ก!

ตัวอย่างกระเป๋าเดินทางแบบซิป คลิ๊ก!

----------------------------

3. ล้อ

ส่วนนี้เป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุดที่จะเสียหายในการขนส่ง สายการบินทั่วไปจะปฏิเสธความรับผิดชอบสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับล้อ และผู้ผลิตหลายรายมักยกเว้นล้อในข้อรับประกันของบริษัท ล้อที่ดีที่สุดควรเป็นล้อยางทั้งลูก ชนิดที่มีตลับลูกปืน ล้อควรฝังอยู่ภายในกระเป๋า โดยเฉพาะกระเป๋าที่ไว้ใต้เครื่องบินเพราะจะป้องกันการเสียของล้อได้ ขนาดขอล้อก็ควรพอเหมาะกับน้ำหนักของสิ่งของ ไม่ใช่กระเป๋าใหญ่แต่ล้ออันเล็กนิดเดียว ส่วนมากราคากระเป๋าที่ราคาถูกจะใช้วัสดุไม่ดี รวมถึงล้อด้วย

- เพราะฉะนั้น เวลาเลือกกระเป๋าเดินทางควรเลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีการรับประกันล้อลากด้วย จึงสามารถเปลี่ยนเคลมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

----------------------------

4. หูหิ้ว

หูหิ้วควรทำจากวัสดุที่ดี ไม่ขาดง่าย การตัดเย็บติดกับตัวกระเป๋าเดินทางต้องแน่นหนา หูหิ้วกระเป๋าที่ดีควรทำจากอลูมิเนียมหรือไฟเบอร์กลาส เพราะทั้งเบาและทนทานนานปี หูหิ้วแบบยืดหดควรติดตั้งภายในกระเป๋าเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันความเสียหายของเสาคันชัก เพราะคันชักมักจะเสียหาย จากแรงกระแทกจนทำให้ยืดหดคันชักไม่ได้ แต่ในกรณีที่เป็นกระเป๋าหิ้วติดตัวก็ไม่จำเป็นต้องให้คันชักมีเสาอยู่ด้านในก็ได้ เพราะคันชักที่อยู่ด้านนอก จะมีความเสี่ยงจากการเสียหายน้อยกว่าคันชักที่อยู่ภายใน และควรลองก่อนซื้อ หากหูหิ้วมีอาการฝืด ติด ชะงัก อย่าได้คว้ามาเด็ดขาด เพราะในอนาคตมันจะยิ่งฝืด ยิ่งติด ไปมากกว่านี้

----------------------------

5. Denier (หน่วยวัดความแข็งแรงของผ้า)

ในกรณีที่เลือกใช้กระเป๋าเดินทางแบบผ้า Denier เป็นหน่วยของการวัดขนาดเส้นใยที่ใช้ในการทอผ้า dinier ยิ่งมากจะทำให้ผ้าหนักขึ้น สำหรับวัสดุที่นำมาทอเป็นผ้าก็ให้ความแข็งแรงต่างกันด้วย เช่น polyester 1800 denier แข็งแรงกว่า Polyester 1200 denier แต่แข็งแรงน้อยกว่า ballistic nylon 1050 denier โดยทั่วไปตามสายการบินจะไม่ยอมรับความเสียหายกับกระเป๋าเดินทางที่ทำด้วยผ้า 600-700 denier อย่าลืมเลือกให้มากกว่า 700 denier นะคะ

----------------------------

6. การรับประกัน

ควรเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางจากร้านที่ได้มาตรฐาน หรือร้านที่มีคนรู้จักลองซื้อแล้วเชื่อถือได้จริงๆ จะดีกว่า เนื่องจากผู้จัดจำหน่ายบางเจ้า  ไม่ได้รับซ่อมจริงๆเมื่อกระเป๋าชำรุด (บางเจ้าโทษว่าเป็นความผิดของลูกค้า หลายๆคนจะเจอกันบ่อย) นอกจากนี้ควรเก็บใบรับประกันไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในกรณีกระเป๋าเดินทางเกิดความเสียหาย 

การรับประกันกระเป๋าเดินทางของ >> JPTRAVELSTORE <<

- การรับประกันอะไหล่ ครอบคลุม ระบบล๊อก มือจับ คันชัก ลูกล้อ ซิป
- ระยะเวลาประกันขึ้นอยู่กับสินค้าแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ ตั้งแต่ 2-5 ปี
- กรณีบอดี้แตกจากการโยนของทางสายการบิน สามารถเคลมค่าเสียหายโดยตรงได้ที่ Counter ของ Airline ได้ทันที

----------------------------

7. ไม่ต้องกังวลว่ากระเป๋าใบใหญ่กว่าจะหนักกว่า

สิ่งของที่คุณจะบรรจุลงในกระเป๋าอาจมีน้ำหนักประมาณ 20-30 กก. แต่น้ำหนักกระเป๋าที่ใหญ่เล็กต่างกัน 4-6 นิ้ว อาจมีน้ำหนักต่างกันเพียงครึ่งกิโลเท่านั้น และคุณจะรู้ว่าถ้ากระเป๋าไม่พอคุณต้องซื้อกระเป๋าอีกใบที่น้ำหนักอย่างต่ำก็ประมาณ 3-4 กก. ซึ่งทำให้เปลืองเงินมากกว่าเดิมซะอีก หรือเราสามารถเลือกซื้อกระเป๋ารุ่นที่มีน้ำหนักเบา ( โดย วัสดุต้องมีคุณภาพ แข็งแรง เช่น Polycarbonate และราคาไม่สูงจนเกินไป )

----------------------------

8. เลือกขนาดกระเป๋าตามความเหมาะสม

ควรเลือกขนาดกระเป๋าเดินทางให้พอเหมาะพอดี กับระยะเวลาเดินทาง และขนาดของสัมภาระ โดยกำหนดวันเดินทางก่อนเลือกกระเป๋า size ตั้งแต่ใบเล็กที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่สามารถขยายข้างเพิ่มความจุได้

กระเป๋าเดินทางขยายความจุได้ คลิ๊ก!

----------------------------

9. อย่าไปยึดติดกับยี่ห้อ

คนทั่วไปจะคุ้นเคยกับชื่อ Samsonite และ american tourister เพราะเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ขายมานาน แต่ก็ยังมีหลายยี่ห้อที่คุณภาพก็ใช้ได้ เช่น Giordano travelpro delsey หรือแม้แต่ Ergo pool club, Valentino, Highway, Verage ลองเลือกการใช้งานต่าง ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจควักกระเป๋าซื้อ

10. ซื้อกระเป๋าเดินทางกับร้านที่มีความรู้ด้านกระเป๋าเดินทาง

เพราะกระเป๋าเดินทางเดี๋ยวนี้ไม่ใช่มีหน้าที่แค่บรรจุสัมภาระเท่านั้น อย่าไปกลัวที่จะถามคนขายเกี่ยวกับความทนทาน หน้าที่การทำงานต่าง ๆ และการบริการหลังการขาย

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : เพจ Your Luggage ค่ะ

ติดตามบทความใหม่ๆ เจ๋งๆ ติดเทรนด์ หรือสอบถาม ขอคำแนะนำการเลือกกระเป๋าเดินทางที่เหมาะกับทริป 
ได้ทาง JPTRAVELSTORE ทุกช่องทางเลยค่ะ